วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

Map Jack (Google street view)

ใครอยากเห็น แผนที่มุมมอง 360 องศา เชิญแวะดูที่เว็บนี้ครับ http://www.mapjack.com/
รู้สึกว่าตอนที่เค้าเก็บภาพไปนั้น คงมาเก็บเมื่อนานแล้ว ดูแล้วเป็นภาพเก่านะครับ ตอนนี้สถานที่ต่างๆคงเปลี่ยนไปเยอะแล้ว แต่หวังว่าคงได้มุมมองอะไรใหม่ๆ เทคโนโลยีการถ่ายภาพ Google street map นะครับ

ลองคลิกดูเล่นๆ ก็เพลินดีเหมือนกันนะครับ เพราะจะได้เห็นมุมมองต่างๆ จากสถานที่จริงได้รอบตัวเราเลย ซึ่งภาพที่ได้ก็ละเอียดพอสมควร ที่เราจะมองออกว่าตรงนี้เป็นบริเวณใหนมีอะไรอยู่บ้าง




ที่มา : http://www.mapjack.com

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

ว่าฮ่าฮ่า วันนี้ไม่มีอะไรทำตื่นมาตี 3 ก็ลองสมัคร โดเมนดูซะหน่อย  สำหรับเว็บที่ผมเลือกสมัครโดเมนนี้คือ
God daddy ก๊อดแด๊ดดี้  (สะกดถูกหรือเปล่าไม่รู้) เห็นเค้าว่าลดเลย มีคูปองด้วย   ก็เลยอยากลอง

เพื่อนๆหลายคนคงอยากจะบอกว่าสมัครของไทยก็ได้มีเยอะแยะ

ใช่ครับแต่ว่าพอดีตอนนี้แค่อยากลองสมัคร จากผู้ให้บริการเมืองนอกดูว่ารสชาติมันจะเป็นอย่างไร อิอิ
ตามภาพด้านล่าง  (ส่วนบรรยายจะตามมาอีกทีครับ ขออภัีย)























กว่าจะจบเล่นเอาไม่ได้หลับได้นอน....เกือบเช้า.Zz

มีหลายๆครั้ง ถ้าผมต้องการจะทำโลโก้หละก็ ผมต้องพึ่งโปรแกรมจำพวก Photoshop ,illustrator หรือโปรแกรมเฉพาะทางเช่น AAA logo ยิ่งแจ่ม พอมีโปรแกรมเหล่านี้ผมจึงจะสร้างโลโก้ได้ดังใจนึก แต่ก็ค่อนข้างใช้เวลากับมันมากในการสร้างแสงเงาต่างๆ กับมัน แต่ถ้าไม่มีโปรแกรมเหล่านี้นะเหรอ ก็แทบไปไม่เป็นเลยนะ   เพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาสร้าง

เอาหละก็แค่บรรยายว่ามันต้องมีโปรแกรมพวกนี้ถึงจะสร้างได้ดังใจ แต่ว่าช่วงนี้ก็เลยค้นหาใน google ดูว่ามีโปรแกรมอะไรที่ทำพวกโลโก้พื้นๆ เช่นพวกตัวอักษรต่างๆ ที่เราสามารถสร้างได้เร็วๆ ไม่เรื่องมาก ค้นไปค้นมากก็เลยเจอ เว็บนี้ http://cooltext.com  จริงๆมีเว็บพวกนี้เยอะมากนะครับลองหาดูดีๆ


มีแนว font ให้เลือกหลายๆแบบเลย



มีเมนูให้เลือกว่าจะเอา แบบใหน หรือจะเป็นภาพโลโก้เป็นปุ่ม ต่างๆก็มี


font ฟ้อนท์แต่ละแบบเลือกเอา

แต่ตอนนี้ผมแค่อยากแค่จะทำโลโก้ เป็น text ง่ายๆเท่านั้นเองจึงเลือกใช้เว็บนี้ก็พอโอเคเลย อย่างไรก็ลองใช้ดูก่อนนะครับ




วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

5 นาทีกับการ รีเซ็ทหมึกเครื่อง Epson T40w Reset Ink Counter

เครื่องพิมพ์อิ้งค์เจ็ทของเรานี้เวลาใช้นั้นมันก็มักสร้างความปวดหัวให้เราได้ทุกๆวันนะครับ
และวันปวดหัวอีกวันหนึ่งก็มาถึง คือตัวนับการพิมพ์งาน หรือ Counter Number ของหมึกมันฟ้องว่า
ซับน้ำหมึกหรือ ตัวนับการพิมพ์งานนั้น(Waste ink pad Counter) ตัวเลขมันเกินลิมิต
ที่เครื่องเค้าตั้งไว้ไว้ครับ

ตั้งไว้ตั้งแต่โรงงานแล้วครับ ที่เค้าตั้งไว้ก็เพราะต้องการให้เราเอาเครื่องเค้า เข้าศูนย์บริการ
เพื่อที่จะได้ทำการดูแลบำรุงรักษาโดยเจ้าหน้าที่ คนที่ได้รับผิดชอบในการ MA จริงๆ 

ดังนั้นในเบื้องต้นเค้าไม่ต้องการให้เราไปเซ็ทอะไรเองได้ ถึงแม้ว่าจะหาวิธีเซ็ทเองได้ก็ตามเถอะ

เอาละก่อนอื่นนะครับก็ดาว์โหลดโปรแกรม ที่นี่.....

ได้โปรแกรมมาให้ทำการคลาย Zip   จะได้ชื่อ T40w by OrTHoTaMiNe


คลิกเปิดไฟลชื่อ AdjProg.exe


เปิดมาจะเห็นดังภาพด้านบน แล้วคลิกปุ่มขวา ที่มีคำว่า Particular adjustment mode.


พอคลิกปุ่มขวาแล้ว จะเห็นหัวข้อภายในดังภาพ
จากนั้นให้คลิกที่หัวข้อ  Waste ink pad counter (แถบสีน้ำเงิน) แล้วคลิก ปุ่ม OK ด้านล่าง


พอคลิกปุ่ม OK แล้ว ให้ติ๊กทั้ง 2 หัวข้อ    ที่คำว่า Main pad counter    และ FL Box Counter
ต่อมาให้ทำการคลิกที่ปุ่มที่มีคำว่า Check


จากภาพด้านบนเราจะเห็นว่าในหัวข้อที่ให้ติ๊กนั้น มีตัวเลขดังนี้
Main pad counter  10017 point
FL Box Counter 12570 point



จากข้อด้านบนเมื่อเราเห็นตัวเลขแล้วให้เราติกทั้งสองหัวข้ออีกครั้ง
แล้วทำการคลิกปุ่ม ที่มีคำว่า Initialization (ด้านล่างปุ่ม Check)
หลังจากนั้นก็จะมีหน้าต่างขึ้นมาให้คลิกที่ OK
**คำว่า Initialization ในที่นี่คือการล้างค่าตัวเลขที่บล๊อกการพิมพ์งานเราออกไป


ต่อมาก็จะมีหน้าต่างแจ้งว่าให้ทำการปิดเครื่องพิมพ์ หรือถ้าไม่แน่ใจก็ให้ถอดปลั๊กออกไปก่อนก็ได้ แล้วทำการคลิก OK เพื่อปิดหน้าต่างที่ฟ้องขึ้นมานี้

จากนั้นก็จะมีหน้าต่างบรรยายว่าได้ทำการล้าง Waste ink pad Counter แล้ว ให้ทำการเปิดเครื่องพิมพ์
ให้ใช้งานตามปกติได้เป็นอันเสร็จ หละครับ...


ดาว์โหลดโปรแกรม ที่นี่.....

Prove: 2a6638ccd

การมาของ Window 8 Tablet ในมุมมองนักพัฒนา


Windows 8 Tablet จะรองรับเฉพาะ HTML5 เท่านั้น



          จะไม่รองรับ Flash และ Plug-in ต่าง ๆ เช่น ActiveX, JavaFX, Java Applet หรือ Silverlight เพื่อระบบความปลอดภัย และช่วยลดการใช้ Resource ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ ตามแนวทางของ Apple ซึ่ง Developer ต้องนำไปพิจารณาเป็นแนวทางในการวางแผนการพัฒนา Application

ถึงเวลา …จุดจบอนาคตของ PC



ในยุคเริ่มของ Apple ซึ่ง IBM และ Microsoft ร่วมกันทำลาย Apple I/II ด้วย PC แม้จะทำให้ MainFrame ลดความสำคัญลง แต่ไม่ได้ทำให้มันตาย

ขณะนี้ Microsoft เดิมพันอนาคตตนเอง ด้วยการยอมจบอนาคต PC โดยการยอมทิ้งและเชิงบังคับ Programmer โดยยกเลิกมาตราฐานการพัฒนา Graphic API ที่ใช้มาตั้งแต่ Win 3.x แล้วปรับปรุ่งเป็น Win32 API สำหรับ Win95, NT และ GDI+ / Windows Forms ของ .NET Platform สู่มาตราฐานใหม่ เพื่อ Windows 8 Tablet ( Metro Style )

Windows 8 ทำงานใน 2 รูปแบบ คือ

1. Desktop จะ Compatible กับ Windows 7 ( x86 / x64 on PC )

2. Metro Style บน x86, x64 และ ARM ( สำหรับ SmartPhone & Tablet แทน Windows Phone )



          ซึ่ง Tablet หรือ Metro Style มีสภาพแวดล้อมใหม่ เรียกว่า Windows RunTime หรือ WinRT คล้าย ๆ กับ Android โดย WinRT API สำหรับการนำไปสร้าง Application สามารถพัฒนาได้หลายภาษา เช่น JavaScript, C++, C# และ VB ประกอบด้วย WIN32, COM+ และ .NET Framework แต่ในส่วนของ GUI 2D/3D จะจำกัดรูปแบบเฉพาะ XAML ( WPF / Silverlight ) สำหรับการพัฒนา Game จะเน้นให้เรียกผ่าน DirectX 11.1 ซึ่งต้องพัฒนาด้วย Native C++ เท่านั้น เราสามารถนำ WinRT App มาทำงานบน Desktop ได้ และ Desktop App สามารถเรียก WinRT App ได้โดยผ่าน ABI : Application Binary Interace

          จุดเด่นของ iOS คือ Security & Graphic Engine

          iOS จะสร้างสภาพแวดล้อมแบบ Sandbox เพื่อสร้าง Security และป้องกันไม่ให้ App มีการ Share Resource หรือไปรบกวน App อื่น ๆ ทำให้ไม่มีใครสร้างสามารถสร้าง Plug-in หรือ Service ต่าง ๆ บน iOS ได้ ( นอกจาก Apple ) ทำให้ไม่มี Virus, Trojan, Spyware หรือ Wom บน iOS และก่อนติดตั้ง หรือก่อน Upgrade จะถาม ID / Password เพื่อการยืนยันทุกครั้ง

          Steve Jobs เป็นผู้บุกเบิก Animation จนประสพความสำเร็จ บนพื้นฐาน Cocoa ซึ่งถือว่าเป็น Object-Oriented Graphics Engine ที่ทรงพลัง แต่มีขนาดเล็ก เป็นมิตรกับผู้ใช้ตั้งแต่เด็กที่อ่านหนังสือไม่ออก จนคนแก่ที่มองแทบไม่เห็น

          Cocoa Framework สามารถนำไปพัฒนา App ทั้งในรูปแบบ Programming ที่เหมือนกับ Windows Forms และ Graphic Design ในรูปแบบ XML ที่เหมือนกับ WPF / Silverlight แต่ความพิเศษมันอยู่ที่ ก่อนนำไปใช้ จะ Convert หรือ Compile จาก XML เป็น Native Object ทำให้เวลา Design สามารถกำหนดการ Control และเชื่อการ Control กับ Programming ได้

          จุดเด่นของ Android คือ ความง่าย และความยืดหยุ่น

          ความยืดหยุ่น คือ การยอมให้สามารถสร้าง Plug-in หรือ Service ต่าง ๆ บน Android และยอมให้ App สามารถใช้ หรือ Share Resource ร่วมกันได้ ( ทำให้เราสามารถ ใส่ เพิ่ม หรือถอด SD เพื่อการ Share Data หรือ Share File ระหว่าง App กันได้ )

          ความง่าย คือ การใช้ Java / Managed Code & Data และ GUI ในแบบ Graphic Design ในรูปแบบ XML แต่มันทำให้ Android ต้องใช้ Memory มากกว่า iOS เป็นเท่าตัว นั้นหมายถึงการใช้แบตมากกว่าด้วย แต่บน Mac OS X จะมีความสามารถด้าน Garbage Collection เหมือนกับ Qt/C++, Java & .NET แต่บน iOS จะตัดความสามารถนี้ไป เพื่อให้ Developer วางแผนการใช้ Memory อย่างรัดกุม …ไม่ฝุ่มเฝือย

          จุดเด่นของ Windows 8 Tablet คือ ความผิดหวังของสาวก





          เพราะ Microsoft ต้องการ Security เหมือน iOS ทำให้ Windows App ดั้งเดิมทั้ง Native ที่พัฒนาด้วย MFC/C++ และ .NET แบบ Windows Forms ทั้งบน Windows XP, Vista, 7 หรือ Windows Phone ไม่สามารถทำงานบน Windows 8 Tablet ได้

          จริงอยู่มีคนพัฒนาด้วย WPF / Silverlight …แต่น้อยมาก เพราะเดิมไม่สามารถทำงานบน Windows Phone ได้ และ Microsoft เคยสัญญาว่า Siliverlight จะทำงานบน IE ของ Windows Phone ได้ …แม้จะทำให้ Siliverlight Developer ผิดหวัง แต่ก็ยังดี สามารถ Compile ใหม่ ให้เป็น App บน Windos Tablet ได้

          ผมคงต้องกระโดนเร่ง Microsoft .NET Framework 4.x และต้องทิ้ง .NET Framework 2.0 ไปแล้ว เพราะคนไทยใช้ Windows เป็นหลัก และ Java SE 7 ไม่สามารถทำงานบน Windows 8 Tablet ได้ แต่จะพัฒนาด้วย C++/CLI เป็นหลัก เพื่อความ Compatible ระหว่าง Windows, Apple และ Linux ( iOS & Mac OS X ผ่าน Objective-C++ )

          สำหรับ Cross-Platform คงพึ่ง Java Platform เท่านั้น ( Java SE on Desktop / EE on Server & Java on Android ) ตอนนี้ง่ายขึ้น เพราะ Spring Social ทำให้ Java ผนวกรวมกับ Social Network แล้ว
MacDeveloper

ที่มา : ความเห็นที่ 9 http://www.manager.co.th/CBiZReview/ViewNews.aspx?NewsID=9540000118559

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

กาน พิม งาน แบบ ช้อด โน้ด อย่างเรวโค้ดๆ

กาน พิม งาน แบบ ช้อด โน้ด อย่างเรวโค้ดๆ

ที่ลงหัวข้อข้างต้นไม่ใช่ว่าเอ๊ะผมเขียนแบบเด็กๆไวรุ่นสมัยนี้กันทำไม แย่จริงคนสมัยนี้ ฮา..
ไม่ใช่ครับผมเพียงแต่นึกขึ้นได้ว่าถ้าเราอยากพิมพ์งานได้เร็วๆ ตามเสียงพูดที่ไหลออกมาเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกงานเสวนา งานสุนทรพุจน์ งานที่ต้องโน๊ตอะไรเร็วๆ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเป็นการโน๊ตบนกระดาษเหมือนนักข่าว

ผมบอกใบ้ให้แล้วกันการพิมพ์งานจากแป้นพิมพ์ คอมพิวเตอร์ ให้โครตเร็วนั้น
ทำได้ไม่ยากผมมีเคล็ดลับมาบอก

มันไม่ใช่การจดชอร์ตโน๊ตแบบเดิมๆ แต่มันคือการพิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ทุกชนิดในโลก
มันจะทำให้เราพิมพ์ข้อความ ประโยคที่เราต้องการได้อย่างรวดเร็วมากๆ

ทำให้การชอร์ตโน็ตเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย


ขณะนี้คนไทย เข้าขั้น ไร้สาระ Digitized Thailand 2011

ใช่ครับคนไทยไร้สาระจริงๆ  พอดีได้ไปนั่งฟังงานสัมมนาที่เนคเทคเค้าจัดครบรอบปีที่ 25 ในวันที่ 14-16 กันยายน 2554 ที่ผ่านมานี้เอง และช่วงวันที่ 16 วันศุกร์ก็มีการเสวนากัน ครับเรื่อง Digitized Thailand
ห้องประชุม Lardpraw Suite โรงแรม Sofitel  ติดกับ Central Lardpraw นั้นเอง



ในการเสวนานั้นก็เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางด้านการสร้าง Content พวก  Digitize ของเมืองไทย และก็ว่าด้วยเรื่อง Content ที่เราคนไทยต้องค้นคว้าและช่วยกันสร้าง Content ดีๆ และนวัตกรรมต่างๆ ให้ได้ชมกัน


ว่าแล้วพอถึงพี่ อ้อ  แห่งกูเกิล Google Thailand ซึ่่งบินกลับมาจากอเมริกาโดยด่วนก็เพื่อเข้าร่วมการเสวนาในวันนั้น ก็ได้มีมุมมองต่อการสร้างสรรค์ของไทยไว้ตามนี้

-คนไทย 8 ใน 10 คนชอบ Search Google

-แค่ 1 ใน 10 จะมีคนสร้างเนื้อหาออนไลน์  Content ที่เป็นเรื่องเป็นราว และไม่ชอบเขียนอะไรที่แสดงที่มาที่ไป หรือเนื่อหาสาระที่ยาวๆ ได้ เช่น blog บทความและข่าวต่างๆ

-ในกลุ่ม ประเทศเพื่อนบ้านไทยเราสร้าง Generat content ก้ันน้อยมาก

-คนไทยชอบคนอะไรที่ไร้สาระ ตามกระแส เช่นเดือนที่ผ่านมาคนไทยค้นคำว่า "คันหู" กันมาก ซึ่งแท้จริงแล้วคนไทยชอบดูเว็บไซต์ที่เกียวกับเรื่องราวรอบๆตัว โดยเฉพาะเรื่องราวประเภทไทยมุง หรือเรื่องเม้าท์สังคมนั้นเอง

-อีกหนึ่งคนไทยจะไม่เขียน blog สักเท่าไหร่ เพราะมันยาวและต้องสร้างเนื้อหาจริงด้วยตนเอง ซึ่งส่วนมากชอบที่จะเขียนประโยค เนื้อหาใจความสั้นแบบ SMS เช่น Facebook

-คนไทยชอบที่จะถ่ายรูป อัพภาพ โพสรูป และรูปๆ มากๆ แต่ไม่ค่อยเขียนเนื้อหาว่ามันคืออะไร

-3 ปีที่แล้วบน you tube คนไทยเป็นคนอัพ/สร้างเนื้อหาส่วนนี้น้อยมาก แต่กลับกัน ในปีนี้ 2011 คนไทยดู you tube มากที่สุดติดอันดับ กลายเป็นว่า คนไทย Upload พวกละคร/หนัง/เพลง หรืออะไรที่บันเทิงๆ และส่วนมากเป็นเนื้อหาที่ผิดลิขสิทธ์ ซึ่ง Content ส่วนนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม




แต่ส่วนดีในโลกออนไลน์ด้านอื่นๆคนไทยก็มีดีเหมือนกันเช่น เร็วๆนี้ มีเด็ก(หรือนักศึกษา ไม่แน่ใจ)กลุ่มหนึ่งทำโครงการ ประเภทสื่อการสอน โดยจะทำการ อัพโหลด สื่อการสอนของตัวเอง ขึ้น you tube ให้ได้ 10,000 ชั่วโมงเพื่อเผยแพร่เนื้อหาที่่เป็นประโยชน์ แก่เด็กนักเรียนหรือผู้อื่นที่สนใจในเนื้อหาวิชาการต่างๆเหล่านั้น และได้ดำเนินการขอทุน 100 เหรียญขั้นต้นเป็นกองทุนส่วนกลาง

อีกอย่างคนไทยชอบและทำได้ดีคือการรีวิวร้านค้าหาอารการกิน หรือรีวิวในทุกๆเรื่องได้ดีจริงๆ เช่นร้านนี้อาหารอร่อยมากก็รีวิวๆ เป็นเรื่องราวได้น่าสนใจมาก (ตอนนี้มีการประกวดการรีวิว สถานที่ท่องเที่ยว ของ ททท.)

และช่วงระยะหลังมานี้ คนไทยมักเค้าค้นหาบริการ การบริการสาธารณะ จากรัฐบาล/หน่วยงานราชการต่างๆอยู่เป็นจำนวนมาก แต่น่าเสียดายคือเนื้อหาที่มาจากส่วนราชการนั้นบางส่วนยังไม่ตรงตามต้องการหรือมีอยู่น้อยไป 



สรุปคือ บรรดา Content ของคนไทย นั้นไม่ชอบที่จะสร้าง Content ที่มีประโยชน์เอาซะเลยว่างั้น แป๋ว...



วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554


วันนี้ลองย้ายฐานข้อมูล PrestaShop ดู ย้ายไปย้ายมาเลยงง ก็เลยต้องหาว่าชื่อฐานข้อมูล
ที่เราจะต้องรู้ และอาจจะต้องไปเปลี่ยนอะไร ตรงนี้ หาไปหามาก็เลยพบว่ามันอยู่ตรงนี้เอง
ลองใช้คำนี้ค้นหาดู change database name prestashop ในกูเกิ้ล




ตรงที่เก็บรายละเอียดที่ตั้ง มันอยู่ภายใต้ ไดเรกทอรี่ตามนี้
config>settings.ini.php file




หรือถ้าเปิด Prestashop ในส่วนจัดการหลังร้านได้ ก็ให้เล็งไปดูแถวๆนี้

ถาม
Changing Database Name...
ตอบ
in the Backoffice, open "Preferences/Database". there you can change the db settings.


ว่างั้นก็ลองไปหลังร้านดูตามนี้ Preferences/Database


วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

ทดสอบย้าย Host Joomla จูมล่าดู ผลปรากฏว่า ไม่สามารถสมัครสามาชิก ในหน้าสมัครได้ กรอกชื่่อทุกอย่างครบแล้ว กลับไม่มีเมล์ Email ของเรายืนยันเลย ผมก็เลยงงว่าเอ๊ะมันต้องแก้ยังไง

รู้สึกว่ามีคนพบปัญหาในเรื่องการตั้งค่าเมล์เพื่อสมัครสมาชิก และการยืนยันอยู่ไม่น้อยเลยนะเนีย

นั่งหาไปเรื่อยๆ ก็พบว่า การตั้งค่าเมล์ เพื่อยืนยันการสมัครสมาชิกนั้น
ให้ไปตั้งในส่วนนี้ (สำหรับ Hosting   Gator นะครับ Host อื่นผมไม่แน่ใจนะ)

Administrator(ส่วนจัดการด้านหลังเว็บไซต์ Joomla)>Site>ControPanel>Globalconfigtion
ตรง แท๊ป Tap ของ Server ให้กรอกตามภาพนี้


พอตั้งได้แล้วก็ลองสมัครดูนะครับใช้เมล์ที่ไม่ซ้ำกันกับชื่อเมล์ Admin ของตัวเอง ก็พอ







วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

เพิ่งเคยเห็นหน้าเว็บ Acer โดนแฮ๊ก Hack

ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นรึเปล่ากับ หน้าเว็บ Acer   


วันจันทร์แรกของการทำงาน พอดีมีพี่ในที่ทำงานโทรมาแต่เช้าว่าขอ ให้หาคอมพิวเตอร์สักชุด
พร้อมพริ้นเตอร์อีกหนึ่งชุด  ผมก็เลยว่าจะไปค้นหารุ่นคอมที่ว่าใน google ก็ลอง Search ดูเห็นลิ้งค์
ของเว็บ Acer ปรากฏอยู่ก็เลยคลิกเข้าไป

แต่ปรากฏว่าคลิกไปแล้วหน้าเว็บไม่ตอบสนอง แนวๆว่าคลิกเข้าไปแล้ว โบ๋ ไม่มีอะไร
เหมือนโดนบล๊อกจากอะไรสักอย่าง

แต่ก็ลองเซิสด้วย google อีกที ก็พบว่ามีลิ้งค์ของ Cache ของเว็บ Acer ปรากฏอยู่ดังภาพด้านล่าง
ตามลิ้งค์นี้ http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:Y2L1m4bHSCwJ:www.acer.com/+acer&cd=1&hl=en&ct=clnk&gl=th  (ลิ้งค์นี้อาจเปลี่ยนไปแล้ว)

ซึ่งผมไม่เคยเห็นมาก่อนว่าหน้าเว็บที่เรียกว่าถูก Hack นั้นในความรู้สึกของตัวเองนั้นเป็นอย่างไร
ส่วนมากจะเห็นจากข่าวสารในเว็บอื่นๆว่า

เค้า Hack กันตรงนั้นตรงนี้บ้าง ก็เรียกว่ามีข่าวพวกนี้ให้อ่านให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ


โลโก้กลุ่มนี้ คือใคร ฮ่าๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เห็นเขียนด้านล่างว่า


HACKED


"h4ck1n9 is not a cr1m3"


twitter.com/turkguvenligi


"4 Sept. We TurkGuvenligi declare this day as World Hackers Day - Have fun ;) h4ck y0u"


© 2005 TurkGuvenligi Tayfa

ไม่รู้ว่าเค้าอ่านคำว่า  Turkguvenligi  ว่าอย่างไร ผมอ่านเดาแบบนี้นะ  เติ้กกูเวนลิจิ ฮ่าๆ ไม่รู้ว่าเข้าแก็ป
หรือไม่ เอาเป็นว่าผมอ่านของผมเองละกัน

แต่พอเข้าไปดูใน ทวิตเตอร์ ของกลุ่มนี้ดังภาพด้านบน   twitter.com/turkguvenligi

อ่านๆไป ก็ไม่ค่อยเข้าใจนะ แต่พอรู้ว่ากำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน กับการแฮ๊ก Hack เว็บชาวบ้าน หุๆ





การติดตั้ง Prestashop ในหน้าให้กรอกชื่อฐานข้อมูล

ผมได้ลองติดตั้ง Prestashop ผ่าน Gator Host พอตั้งชื่อ Databaset และ Username เสร็จแล้ว
หลังจากนั้นก็ทำการ ดาวโหลด ไฟล์ต้นฉบับ Prestashop Version prestashop_1.4.4.1.zip

จากนั้นก็นำไฟล์ที่โหลดมาแตก Zip ก็จะเห็นเป็น Folder ชื่อ Prestashop แล้วก็คลิกเข้าไปดู
ภายใน Folder เพื่อมองดูว่ามีไฟล์อะไรบ้างอยู่ด้านใน แล้วทำการ Selection ไฟล์ทั้งหมด
เพื่อ  Zip ไฟล์ภายใน Prestashop Folder ทั้งหมด เราก็จะได้ ไฟล์ Prestashop Zip
พอเสร็จก็อัพโหลดขึ้นไป บน Gator host  แล้วก็แตก Zip ไฟล์ต่อไป

ในส่วนของ การสร้างฐานข้อมูลบน Gator host นั้นก็ให้ตั้งชื่อกับพาสเวิดได้ตามปกติ

แต่พอมาถึงขั้นตอนที่จะนำชื่อฐานข้อมูลมาผูกโยงกับตัวเว็บที่จะเซ็ทอัพ กลับไม่ผ่านก็เลยงงว่า
ใส่ข้อมูลอะไรไปไม่ถูกต้อง ตามภาพ


ตรวจไปตรวจมา ก็พบว่าทำอะไรผิดไปมันถึง Verify ไม่ผ่าน
ก็เลยก๊อป ประโยค Database server name: ประโยคนี้ไปค้นหาว่าเราใส่ช่องนี้ถูกรึเปล่า
ผลคือใส่ผิด ที่ถูกต้องปกติที่เค้าใส่กัน คื้อให้ใส่ว่า localhost ฮ่าๆๆ

ตามนี้ดังภาพด่านล่างลองใส่อีกทีก็ผ่านได้แล้ว โฮ่ๆ


หลังจากนั้นก็ Next แล้วก็จบ