วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คนไทยล้มเหลวทุกระดับ


เห็นคนไทยไม่น้อยชอบพูดว่า "ไม่มีที่ไหนเหมือนเมืองไทย" "เมืองไทยสบายที่สุดแล้ว"

ฟังแล้วก็ได้แต่ปลง เพราะเป็นทัศนคติที่หลงตัวเองแบบสุด ๆ ประมาณว่า ประเทศนี้ดีที่สุด
ไม่คิดบ้างเหรอครับว่า คนชาติอื่นเขาก็พูดทำนองเดียวกัน ว่าไม่มีที่ไหนเหมือนบ้านของเค้า

ประเด็นก็คือ เพราะคนไทยคิดแบบนี้ จึงไร้วุฒิภาวะเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต (ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม
หรือเคยอยู่เมืองนอกมานานก็ตาม)


ประเทศจีน ออกสำรวจโลกสมัยเจิ้งเหอ เมื่อปี 1421 ก่อนโคลัมบัส 80 ปี โปรตุเกส ฮอลแลนด์
และเจ้าอาณานิคมอื่นๆ ทั้งหลาย ก็ทำแบบเดียวกัน ในเวลาต่อมา

ทุกวันนี้ ประเทศเหล่านี้ คือ ประเทศที่กุมเศรษฐกิจโลก เพราะออกเดินทางก่อนใคร ออกสำรวจโลกก่อนใคร รู้จักการค้าก่อนใคร และเล่นการเมืองระหว่างประเทศก่อนใคร
แทรกซึมทางเชื้อชาติ การค้า และวัฒนธรรมได้ก่อนใคร

คนจีนมีอยู่ทุกที่ในโลก แอฟริกาก็มี ไซบีเรียก็มี ทุกวันนี้ จีนประกาศจะรวมพลังชาวจีนโพ้นทะเลเพื่อร่วมพัฒนาชาติจีน ทั้งที่สมัยเหมา เจ๋อ ตง ไม่เคยพูดถึงแบบนี้มาก่อน คนจีนถูกฆ่าตายในอินโดนีเซีย ประธานาธิบดีเจียง เจ๋อ หมิน ก็ไม่ปริปากสักคำ เพราะสมัยก่อนคนจีนมีชีวิตราคาถูกมาก ๆ แต่วันนี้ไม่ใช่อีกแล้ว

วันนี้ คนญี่ปุ่นได้เป็นประธานาธิบดีเปรู คนเวียดนามได้เป็นรองนายกรัฐมนตรีเยอรมนี แต่คงจะไม่มีวันนั้นสำหรับคนไทย

ถ้าใครเคยมาเรียน หรือมาอยู่ที่อเมริกาจะรู้เลยว่า คนไทย เป็นคนที่ปรับตัวได้ยากที่สุด และน่าจะเป็นคนเอเชียที่ปรับตัวได้ยากที่สุดด้วย ปัญหาหลัก คือ ภาษา ปัญหารอง คือ การปรับตัว คุณจะเห็นคนเกาหลีคบกับคนผิวดำ ส่วนคนจีน และคนอินเดียนั้น มีอยู่ทุกที่ แต่คนไทยจะหลบมุมอยู่เงียบ ๆ สวงนคำพูด สงวนท่าที ร่วมกิจกรรมน้อย



นี่คือนิสัยหล้าหลังแบบไทย คือ ไม่สู้ปัญหา แล้วก็คิดว่า สุดท้ายก็กลับไปตายรังที่เมืองไทย
(รวมทั้งคนที่อยู่เมืองนอกมาเกือบทั้งชีวิต)

นี่เป็นจุดเล็ก ๆ ที่สะท้อนบุคลิกของคนในชาติ สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือ การค้าและการระหว่างประเทศ

ทุกวันนี้ ในองค์กรระหว่างประเทศแทบไม่มีคนไทยนั่งในตำแหน่งสำคัญอีกแล้ว
เมื่อเทียบกับยุค 30 - 40 ปีที่แล้ว เพราะการศึกษา การวางตัวของคนไทยไม่มียุทธศาสตร์
ที่จะพัฒนาคนมาทดแทน
การหาเพื่อนในเวทีต่างประเทศก็ทำไม่เป็น จึงแพ้ในการต่อรอง เจรจาแทบทุกเวที
นับว่าถอยหลังลงคลองเข้าทุกวัน

ส่วนในด้านเศรษฐกิจ ก็ขยายตลาดไม่เป็น เพราะเครือข่ายน้อย จนเคยชินกับการเป็นประเทศ
รองรับการผลิต อาศัยคนนอกมาลงทุนในประเทศเป็นหลัก หรือไม่ก็ผูกขาดตลาดภายในประเทศ
ทุกวันนี้กิจการในไทยเป็นของคนสิงคโปร์เกือบหมดแล้ว สาธารณูปโภคก็ไม่มีเงินลงทุน
ต้องพึ่งต่างชาติในที่สุด


ที่เป็นเช่นนี้ เพราะคนไทยถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ ไม่รู้จักโต มีอุปสรรคก็ท้อถอย ไปไม่รอดก็กลับมาตายรังให้ญาติดูแล ทำตัวหลบอยู่ในบ้านเพราะไม่กล้าเผชิญโลก ไม่ต้องคิดอะไรใหม่ ๆ เอาของบรรพบุรุษมากิน อีกร้อยปีก็ได้แค่นี้

โดยรวมจึงเป็นชาติที่อ่อนแอยิ่ง รอวันเสื่อมสลาย และถูกกลืนในที่สุด