วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ข้อดี ข้อเสีย Android และ Iphone - (มุมมอง)

มันก็มีข้อดีข้อเสียกันทั้งสองระบบนะครับ คุยกันดีๆ ก็ได้นี่ครับ ใครชอบอะไรก็ใช้ไปทำไมต้องมาด่ากัน



iPhone
ข้อดี
1. ระบบเสถียร (เพราะทำเองทั้ง OS ทั้ง Hardware และเข้มงวดเรื่อง APP)

2. ใช้งานง่าย (เพราะไม่ค่อยเปิดให้ตั้งค่าอะไรได้มากมายนัก)

3. ใช้แล้วดูดี (เพราะเครื่องมันแพง ต้องมีตังค์พอสมควรถึงจะซื้อได้)

ข้อเสีย

1. ไม่มีตัวเลือกด้าน Hardware และระดับราคา (iPhone iPAD เลือกได้แค่จะเอา Storage มากแค่ไหน ราคาเริ่มต้นค่อนข้างสูง)

2. ขาดความยืดหยุ่นในการถ่ายโอนและแลกเปลี่ยนข้อมูล (ต้องผ่าน iTune เท่านั้น Sync ได้กับพีซีแค่เครื่องเดียวเท่านั้น ถ้าจะเปลี่ยนเครื่อง Sync ต้องล้างข้อมูลใน iPhone iPAD ออกให้หมดก่อน)

3. APP เยอะจริงแต่ส่วนใหญ่ต้องซื้อ

4. ไม่รองรับ Adobe Flash (เว็บไซท์ส่วนใหญ่มี Adobe Flash แต่ Apple หักดิบ User ไม่รองรับ Adobe Flash ทำให้การแสดงบนหน้าเว็บไม่สมบูรณ์)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------



Android
ข้อดี

1.ตัวเลือกในการใช้งานหลากหลายทั้ง Hardware และระดับราคา (มีผูผลิตจากหลากหลายบริษัท
และรองรับสเปคเรื่องที่กว้างกว่าทำให้กลุ่มผู้ใช้มากกว่า)

2. มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง

3. APP เยอะและส่วนใหญ่ฟรี

4. รองรับ Adobe Flash

ข้อเสีย

1. เสถียรภาพสู้ IOS ไม่ได้ (เพราะต้องรองรับ Hardware ที่หลากหลายกว่า)

2. สามารถปรับแต่งใด้มากทำให้ดูใช้งานยากกว่า (สำหรับมือใหม่)





สรุปว่าใครชอบแบบใหนก็เลือกเอาครับ!

มันก็เหมือนซื้อรถนั้นแหละ ถ้าใครตังค์เหลือซื้อเบนซ์มาขับ
ก็ไม่แปลก เงินน้อยหน่อยก็ยังมีโตโยต้า ฮอนด้าให้ขับ แต่คน
ที่ขับโตโยต้า ฮอนด้าไม่ได้หมายความว่าจน เค้าอาจคิดว่า
เบนซ์มันไม่จำเป็นก็ได้ หรือคนรวยๆ เค้าอาจจะไปเลือกเล็กซัส
ของโตโยต้า หรูหราดีเหมือนเบนซ์ แต่จ่ายน้อยกว่า จริงมั้ย
ครับ

จะว่าไปแล้วโดยประวัติที่ผ่านมาแล้ว Apple ทำ OS มานานแล้วนะครับ Android เพิ่งจะเริ่มต้นเอง จะเอาโครงสร้างพื้นฐานมาดีกว่า Apple ได้ไง

ซึ่งของนัก programmer มืออาชีพเค้าได้บรรยายให้ฟังไว้ว่า กว่า Android มาถึงจุดนี้ได้ถือว่าสุดยอดแล้วครับ ต้องบอกว่าโดยสถิติแล้วคนใช้ Android ในสมาร์ทโฟนนั้น มากกว่าคนใช้ IOS ทิ้งกันไม่เห็นฝุ่น(เพราะเป็น OS ฟรี และ ผู้ผลิตมือถือแบรนด์ต่างๆเอาไปพัฒนาต่อยอดใน เครื่องตนเองได้หลากหลาย)

และที่ผ่านมา Android ก็ต้องพัฒนาให้ตอบสนองนักพัฒนาเยอะกว่าและเยอะกว่า เพราะว่ามันมีลูกค้าอยู่จำนวนมหาศาล และความต้องการไม่เหมือนกันเลย มันเลยต้องพัฒนาให้ตอบสนองผู้บริโภคมากกว่า

มาถึงจุดนี้ ก็เป็นเพราะ Android มันเป็นระบบเปิด โครงสร้างพื้นฐานจึงต้องยืดหยุ่นมาก เมื่อยืดหยุ่นมากก็ทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ทุกจุด ในขณะที่ IOS รู้ว่าจะต้องเกิดข้อผิดพลาดตรงไหน ความผิดพลาดมันมาจาก Hardware และ Program ตัวใด ปัญหาเกิดจากโครงสร้างทางวิศวกรรม ส่วนใด มันระบุปัญหาได้ง่ายกว่า ทำให้ไม่จำเป็นต้องการให้มีการแก้ไขมากนัก



ดังนั้นระบบปิดจึงค่อนข้างมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่า เพราะไม่ต้องยืดหยุ่น แต่ถ้ามองว่าเพราะมันยืดหยุ่นได้มากกว่ามันถึงดีกว่า อันนี้ก็ต้องตอบว่า แล้วแต่คนคิดครับ พูดไม่จบครับ

เหมือนกับเรา เรียนทุกอย่าง เรียนหมด ทำเป็นทุกอย่าง แต่เจาะลึกไม่ได้ กับเรียนมันอย่างเดียวให้ชำนาญที่สุด เหมือนแพทย์เฉพาะทาง หรือ วิศวกรเฉพาะทาง เก่งเฉพาะทางจริงๆ ถามว่าอันไหนดีกว่าตอบไม่ได้ครับ

อย่างถ้าเราไปอยู่ในสถานที่ขาดแคลนแรงงาน รู้เยอะดี สามารถทำได้หลายอย่าง แต่ถ้าอยู่ในสถานที่มีแรงงานเหลือเฝือ เฉพาะทางดีกว่า เพราะกลายเป็นว่างานอย่างนี้ใครๆ ก็ทำเป็นกัน แต่ที่ รู้เยอะ เฉพาะทางและรู้ลึก มันมีคนเดียวเท่านั้น

ดังนั้น ต่างคน ต่างมีความดีของตัวมันเอง เลือกที่จะใช้อย่างเหมาะสมครับ ก็จะดีที่สุดสำหรับเรา แล้วจะไปแคร์อะไรอีก อยู่บนพื้นฐานพอดี พอเพียง ก็เพียงพอครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น